ที่มาและจุดเริ่มต้นของปัญหา
ปัจจัยหนึ่ง ที่ทำให้เด็กมีผลการเรียนอ่อนลง
มาจากความสนใจของตัวเด็กเองที่พบว่าเด็กให้ความสนใจเรื่องของเกม
และสื่อเพื่อความบันเทิงมากขึ้น ทำให้ความสนใจในการศึกษาหาความรู้ลดน้อยลง ทั้งนี้
เนื่องมาจากสภาพสังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปสู่การเป็นครอบครัวเดี่ยว พ่อแม่ทุ่มเวลาหาเงิน
ทำงาน และใช้เงิน ใช้เทคโนโลยีเลี้ยงดูเด็ก เช่น ซื้อทีวี ซื้อเครื่องเล่นเกมส์ คอมพิวเตอร์ให้ลูกเล่นอยู่บ้าน
เพราะคิดว่าดีกว่า ปลอดภัยกว่าที่จะให้ลูกไปเล่นนอกบ้าน
ซึ่งจะทำให้เกิดผลเสียต่อพัฒนาการ ปัญหาการสอบแอดมิชชั่น เนื่องจากระบบการสอบแอดมิชชั่น
เน้นคะแนนสอบเพียงบางวิชาและไม่เน้นความรู้ในเชิงลึกเหมือนการสอบในสมัยเก่าปัญหาจากครูผู้สอน
ทั้งในเรื่องเงินเดือน และการฝึกฝนเรียนรู้ของครูให้เท่าทันศาสตร์ต่างๆ
เพื่อจะไปสอนให้ทันกับเทคโนโลยีและความรู้ใหม่ๆ
โดยที่ผ่านมาสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) (สมศ.)
เปิดเผยผลการประเมินคุณภาพภายนอก ทั้งระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ระดับอาชีวศึกษาและระดับอุดมศึกษา
ซึ่งพบว่ามีสถาบันการศึกษาที่ไม่ผ่านการรับรองผลคิดเป็นร้อยละ 19.59
โดยในเบื้องต้นพบว่าสถานศึกษาที่ไม่ผ่านการรับรองมีปัญหาสำคัญมาจากคุณภาพครูเป็นปัจจัยสำคัญ
ผลกระทบของปัญหา(ขอบเขต, แนวโน้มและความรุนแรง)
ระบบการศึกษาเป็นระบบแรกที่สร้างเทคโนโลยีในด้านคอมพิวเตอร์ขึ้น และเป็นสิ่งชักนำให้ส่งผลกระทบไปในงานด้านอื่นๆ
อีกจำนวนมาก ในปัจจุบันการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยได้ใช้คอมพิวเตอร์ประกอบการเรียนการสอนเนื่องจากการศึกษาในสาขาวิชาต่างๆ
จำเป็นต้องอาศัยคอมพิวเตอร์ในระยะยาว การใช้คอมพิวเตอร์ประกอบการเรียนการสอนมีแนวโน้มที่จะขยายตัวไปถึงระดับมัธยมและประถมด้วย
การใช้คอมพิวเตอร์ในการศึกษานี้จะช่วยให้การเรียนการสอนเป็นไปได้อย่างกว้างขวางรวดเร็ว
ทำให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจในเรื่องราวที่ศึกษาได้ดีขึ้น และยังช่วยให้ผู้สอนสามารถใช้เวลาในการวางแผนและพัฒนาให้เกิดความก้าวหน้าในการศึกษาได้มากยิ่งขึ้นนอกจากนี้
ผู้สอนยังอาจใช้คอมพิวเตอร์ในการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการสอนที่จะเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงวิธีการสอนให้เหมาะสมกับสภาวะของผู้เรียนได้อีกด้วยนอกจากนี้ระบบคอมพิวเตอร์ช่วยสอนจะมีบทบาทมากขึ้น
เนื่องจากราคาเครื่องคอมพิวเตอร์ถูกลง และมีผู้สร้างบทเรียนสำหรับใช้สอนโดยคอมพิวเตอร์มากขึ้น
ในระบบคอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ผู้เรียนจะเรียนโดยใช้แป้นตัวอักษรและจอโทรทัศน์ที่เชื่อมโยงกับคอมพิวเตอร์ซึ่งได้มีผู้เตรียมบทเรียนต่างๆ ไว้พร้อมแล้ว คอมพิวเตอร์จะแสดงภาพและข้อความบนจอโทรทัศน์ ข้อความนั้นอาจจะเป็นคำแนะนำเพื่อให้ผู้เรียนปฏิบัติ คำอธิบายเพื่อให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจหรือเป็นคำถามเพื่อให้ผู้เรียนตอบ เครื่องคอมพิวเตอร์จะบันทึกผลการเรียนของผู้เรียนว่าได้เข้าใจในเรื่องต่างๆ ดีขึ้นประการใดบ้างผู้สอนสามารถจะติดตามผลการเรียนได้สิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้การเรียนการสอนดีขึ้นครูผู้สอนจำเป็นต้องหาทางปรับปรุงบทเรียนที่ใช้สอนของตนอยู่เสมอผู้เรียนจะต้องอ่านบทเรียนจากจอภาพแทนการอ่านจากหน้ากระดาษ นอกจากนี้ ตำราหรือบทเรียนจะเก็บในรูปของจานแม่เหล็กหรือแถบวีดีทัศน์แทนหนังสือ ผู้เรียนสามารถหาอ่านได้ง่าย
สมมุติว่าเราต้องการรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น เรื่องต้นไม้ ถ้าเรื่องนี้มีเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์แล้ว คอมพิวเตอร์จะตรวจดูว่ามีเรื่องนี้ ณ ที่ใด และจะแสดงบนจอภาพให้เห็นได้ทันที ผู้เรียนทุ่นเวลาในการไปค้นหาได้มาก ผลกระทบเหล่านี้จะมีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป
ผลกระทบที่สำคัญทางด้านการศึกษาคือ
การกลับมาอบรมและศึกษาใหม่ เนื่องจากผู้ที่สำเร็จการศึกษาไปแล้วและกำลังทำงานอยู่ ต้องปรับปรุงตนให้เข้ากับระบบงานที่กำลังจะเริ่มใช้เครื่องคอมพิวเตอร์
บุคลากรที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องกลับเข้าอบรมและศึกษาใหม่ ถ้าการสอนเทคโนโลยีลึกซึ้งเกินไป
ผู้เข้ารับการอบรมจะท้อแท้และเกิดปฏิกิริยาต่อต้าน ไม่สามารถรับวิทยาการใหม่ได้
ผลก็คือ ประสิทธิภาพในการทำงานด้อยลง และอาจจะก่อปัญหาถึงระดับสูงได้โดยง่าย สิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบกลับมายังวิธีการศึกษาว่าจะต้องหาทางพัฒนาวิธีการให้เข้าใจง่าย
และเป็นที่ยอมรับได้ตั้งแต่แรกส่วนการเรียนการสอนโดยทั่วไป ยังมีลักษณะเหมือนเดิม
คือ มีห้องเรียน มีครูสอน มีอุปกรณ์การสอนเช่นเดิม เช่น กระดานดำ เครื่องฉายสไลด์ สิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนคือการวางแผนบริหารระบบงานทางด้านการศึกษา
ให้สะดวกต่อการนำคอมพิวเตอร์ไปใช้
1. กำหนด กลยุทธ์/นโยบาย/พรบ.การศึกษา และเป้าหมาย ที่ชัดเจน แต่มีความยืดหยุ่นในตัวเอง
2. จัดตั้งทีมหรือคณะทางาน ที่มาจากทุกภาคส่วน ร่วมในการวิเคราะห์สภาพปัญหา รูปแบบการศึกษาที่ควรจะเป็น กำหนดแนวทางการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน โดยไม่ต้องขึ้นตรงกับส่วนใดๆ
3. ให้การสนับสนุนสถาบันการศึกษาตามความต้องการ ไม่จัดสรรในรูปของงบประมาณ
4. บูรณาการการควบคุมคุณภาพการศึกษาให้เป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการปฏิบัติงาน (เป็นการทำงานที่ recheck ตัวเอง) ผู้ปฏิบัติจะไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนโดนาประเมินตลอดเวลา
5. ยกเลิกการผู้ติดของผลการประเมินกับงบประมาณ (เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นจริง)
6.ปรับเกณฑ์การขอเลื่อนวิทยฐาน โดยพิจารณาผลการดาเนินงานในชั้นเรียนและประสิทธิผลของนักเรียน
7. จัดสรรงบประมาณตามความจาเป็นและความเร่งด่วน
8. เก็บงบประมาณไว้ใช้สาหรับโรงเรียนที่มีความต้องการ
9.ยกเลิกระเบียบการจัดสรรงบประมาณตามจานวนนักศึกษา โดยพิจารณาจากความจาเป็นและความเหมาะสม (เพราะนอกจากจะทาให้เกิดช่องว่างแล้ว นักเรียนไม่มีความเกรงกลัวว่าตัวเองจะสอบตกเพราะยังไงอาจารย์ก็ให้สอบแก้จนผ่าน ทำให้การใส่ใจในการเรียนมีเปอร์เซนต์น้อยลง)
นางสาว พิชญาดา ยานะ 551805038
นางสาว บุษกร สุนันต๊ะ 551805037
นางสาว สุกานดา ใจดี 551805007
นางสาว วิไลลักษณ์ ยาเขต 551805008