ผู้บริโภคเดี๋ยวนี้ไม่เหมือนเดิม
อดีตเป็นเหมือนกับอีกโลกหนึ่งไปแล้ว สมัยนั้นอะไรๆ ก็แตกต่างไปจากเดี๋ยวนี้
การบริโภคของคนทั่วไปในรอบ
30
ปีที่ผ่านมา มีองค์ประกอบสำคัญๆ 3 ส่วนประกอบกัน คือ
ผู้บริโภค กลุ่มเป้าหมาย
ประเภทของสินค้า ถึงวันนี้ประกอบทั้ง 3 ส่วนนี้ไม่ได้มีความหมายอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อ
30 ปีที่แล้ว แต่ถ้าเราลงลึกในรายละเอียดขององค์ประกอบทั้ง 3 ส่วน
เราจะเห็นว่าทุกอย่างได้เปลี่ยนแปลงไป จนความรู้สึกนึกคิดแบบเดิมๆ ใช้ไม่ได้อีกแล้ว
กลุ่มเป้าหมายไม่เหมือนเดิม
คนเราทุกวันนี้มีความเครียดมากมาย เราพูดกันถึงความเครียดกันจนติดปาก และก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนเราทุกวันนี้เครียดจริงๆ เครียดกับเศรษฐกิจที่มีปัญหา จนส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการจับจ่ายสินค้า และที่เปลี่ยนแปลงไปชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ
เพราะฉะนั้น
เป้าหมายของคนเราในทุกวันนี้จึงไม่ใช้ผู้รับสื่อในแบบเดิมๆ อีกต่อไปแล้ว
เพราถ้าใช้ เขาก็ต้องตั้งใจเสพโฆษณาของเรามากกว่านี้ แสดงให้เห็นปฏิกิริยาของผู้ชมที่มีต่อช่วงพักโฆษณาระหว่างรายการได้เป็นอย่างดี
เราจึงสรุปได้ว่า
กลุ่มเป้าหมายสมัยนี้ไม่เหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว
และคนเหล่านี้ก็คงไม่ใช่ผู้ที่รับสื่อตามที่เราคิดไว้
ผู้บริโภคเปลี่ยนไป ใครต้องทำอะไรบ้าง
เมื่อพูดถึงผู้บริโภค
เราคงต้องตีความว่าคนกลุ่มนี้คือผู้ซื้อ หรือผู้ที่ก่อให้เกิดกิจกรรมในการบริโภค
และด้วยความคิดนี้เอง นักการตลาดอย่างพวกเราจะต้องกระตือรือร้นที่จะป้อนข้อมูลให้แก่ผู้บริโภคอย่างเต็มที่
ต้องบรรยายสรรพคุณเกี่ยวกับสินค้า ต้องทำหีบห่อให้สวยเตะตา ต้องทำรายละเอียด ต้องทำแผ่นพับ และอะไรต่ออะไรอีกมากมายด้วยความหวังของผู้บริโภคจะได้รับรู้ถึงสรรพคุณของสิ่งที่เราจะขายให้มากที่สุด ทั้งที่จริงแล้ว ผู้บริโภคจะสนใจในตัวผลิตภัณฑ์ก็ต่อเมื่อถึงจุดที่กำลังจะตัดสินใจซื้อ หรือกำลังจะใช้สินค้าตัวนั้น
เหตุผลในการต่อต้านจะมีหลายสาเหตุ ได้แก่
} สาเหตุส่วนบุคคล เนื่องมาจากความกังวลว่าการเปลี่ยนแปลงจะทำให้เกิดอุปสรรคต่อตนเอง
เมื่อเกิดความกลัวต่อการเปลี่ยนแปลงจึงทำให้เกิดการต่อต้านขึ้นมาได้
โดยเฉพาะเมื่อการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
} เกิดจากการขาดความเข้าใจและความมั่นใจ เมื่อเกิดความไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ของการเปลี่ยนแปลง
หรือไม่แน่ใจในผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลง
หรือไม่เชื่อมั่นในตัวผู้นำว่าจะสามารถนำพาไปสู่ความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นได้
} ความไม่ไว้ใจ ถ้าการเปลี่ยนแปลงทำให้เกิดผลในเชิงบวกในอนาคต
พนักงานจะเกิดความสงสัยว่าเขาจะเป็นอย่างไรในอนาคต
} ความไม่แน่นอน เมื่อข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงไม่ชัดเจนจะส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนเนื่องจากจะทำให้เกิดความกลัวในสิ่งที่จะเกิดขึ้น
หรือวิตกกังวลต่อรูปแบบใหม่ ๆ ที่องค์การจะนำมาใช้
} การรับรู้ของแต่ละบุคคลจะมีความแตกต่างกัน
เมื่อได้รับผลกระทบจะทำให้เกิดการต่อต้านขึ้น
ซึ่งก็จะมีความรุนแรงและความแตกต่างกันไป ดังนั้นจึงต้องมีการจัดเตรียมขั้นตอนต่าง
ๆ ให้กับสมาชิกในองค์การ
} ความเฉื่อยชา พนักงานในองค์การจะรู้สึกสบายเมื่อทำงานในวิธีการเดิมที่ทำอยู่มากว่าเปลี่ยนแปลงรูปแบบวิธีการทำงานใหม่เพราะว่าไม่มีความเสี่ยงเกิดขึ้น
} มองเห็นจุดอ่อนหรือข้อบกพร่องของแผนการเปลี่ยนแปลง
เนื่องจากความใกล้ชิดกับงานจะทำให้ทราบถึงข้อจำกัดของกลยุทธ์ที่จะนำมาใช้ว่ามีความเหมาะสมกับการดำเนินงานแบบเดิมหรือไม่
ซึ่งหากนักบริหารยอมรับและเข้าใจจะเป็นประโยชน์ในการนำไปปรับปรุงกลยุทธ์เพื่อจัดการความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
} ความไม่ไว้ใจ ถ้าการเปลี่ยนแปลงทำให้เกิดผลในเชิงบวกในอนาคต
พนักงานจะเกิดความสงสัยว่าเขาจะเป็นอย่างไรในอนาคต
} การขาดแคลนข้อมูล เกี่ยวกับความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลง
และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลง
} การต่อต้านผลที่เกิดขึ้น การประเมินถึงผลกระทบในทางบวกและทางลบที่จะเกิดขึ้น
พนักงานจะพยายามป้องผลประโยชน์ของตนเอง
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงอาจทำให้พนักงานสูญเสียผลประโยชน์
รายชื่อสมาชิก AD โปรแกรมวิชาการจัดการทั่วไป
นางสาว พิชญาดา ยานะ 551805038
นางสาว บุษกร สุนันต๊ะ 551805037
นางสาว สุกานดา ใจดี 551805007
นางสาว วิไลลักษณ์ ยาเขต 551805008